เลือกสเปคเครน ให้เหมาะกับงานของคุณ ดูอะไรบ้าง

by pam
106 views
การเลือกสเปคเครน ให้เหมาะกับงาน

เครนคือเครื่องจักรที่ออกแบบมาเพื่อยกและเคลื่อนย้ายวัตถุหนักในแนวตั้งและแนวนอน มีการใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น การก่อสร้าง, การผลิต, และการขนส่ง เครนประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ เช่น แขนยก (boom), ตะขอ (hook), ระบบรอก (pulley system), และส่วนควบคุม (control system) ซึ่งช่วยให้สามารถยกและเคลื่อนย้ายวัตถุได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

ซึ่งแต่ละหน้าที่ก็เหมาะสมกับประเภทเครนที่แตกต่างกันออกไป ผู้ใช้งานควรรู้ว่างานของตนนั้นเหมาะกับประเภทเครนแบบไหน ซึ่งมีเกณฑ์ในการเลือกสเปคเครน ดังนี้

ประเภทของเครน

ก่อนที่จะเลือกซื้อเครน เราควรรู้จักประเภทของเครนที่มีอยู่ในท้องตลาด เครนสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภทตามการใช้งาน ดังนี้

Truck Crane

1. เครนติดตั้งบนรถบรรทุก (Truck Crane)

เครนติดตั้งบนรถบรรทุก หรือที่เรียกว่า “Truck Crane” มีความยืดหยุ่นสูง เนื่องจากสามารถเคลื่อนที่ไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เหมาะสำหรับงานที่ต้องการการยกวัตถุในหลายสถานที่ เช่น งานก่อสร้างถนน งานติดตั้งโครงสร้างเหล็ก และงานขนส่งสินค้าหนัก การติดตั้งเครนบนรถบรรทุกสามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว ไม่ต้องใช้เวลาในการประกอบหรือรื้อถอนมากนัก นอกจากนี้ยังมีการใช้งานที่ง่ายดาย ผู้ใช้งานสามารถเรียนรู้การควบคุมเครนได้ในระยะเวลาสั้น ๆ

ข้อดีและข้อเสียของเครนติดตั้งบนรถบรรทุก

ข้อดี
  • ความยืดหยุ่นในการเคลื่อนที่: สามารถเคลื่อนที่ไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
  • ติดตั้งและใช้งานง่าย: ไม่ต้องใช้เวลาในการประกอบหรือรื้อถอนมากนัก
  • สามารถในการยกน้ำหนักมาก: สามารถยกวัตถุหนักได้หลากหลายขนาด
ข้อเสีย
  • ข้อจำกัดในการยกวัตถุในที่แคบ: เนื่องจากขนาดของรถบรรทุกและเครน อาจมีข้อจำกัดในการยกวัตถุในพื้นที่ที่มีพื้นที่จำกัด
  • ค่าใช้จ่ายสูง: การซื้อและบำรุงรักษาเครนติดตั้งบนรถบรรทุกอาจมีค่าใช้จ่ายสูง
  • ต้องการผู้เชี่ยวชาญในการควบคุม: ผู้ใช้งานต้องมีความรู้และทักษะในการควบคุมเครนอย่างถูกต้องและปลอดภัย

Pile Driver Crane

2. เครนตอกเสาเข็ม (Pile Driver Crane)

เครนตอกเสาเข็ม หรือ “Pile Driver Crane” เป็นเครื่องจักรที่ออกแบบมาเพื่อการตอกเสาเข็มลงไปในดิน โดยเฉพาะในงานก่อสร้างที่ต้องการฐานรากที่แข็งแรง เช่น อาคารสูง สะพาน และโครงสร้างอื่น ๆ ที่ต้องการการรองรับน้ำหนักที่มั่นคงและทนทาน มีความแข็งแรงและสามารถรับน้ำหนักได้มาก

ข้อดีและข้อเสียของเครนตอกเสาเข็ม

ข้อดี
  • ความสามารถในการรองรับน้ำหนักสูง: ช่วยสร้างฐานรากที่แข็งแรงและมั่นคงสำหรับโครงสร้างหนัก
  • ความแม่นยำในการตอกเสาเข็ม: ระบบควบคุมที่แม่นยำช่วยให้การตอกเสาเข็มเป็นไปอย่างตรงจุด
  • ความทนทานและการใช้งานระยะยาว: อุปกรณ์ที่แข็งแรงและทนทานช่วยให้เครนตอกเสาเข็มมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
ข้อเสีย
  • ค่าใช้จ่ายสูง: ซื้อและบำรุงรักษาเครนตอกเสาเข็มมีค่าใช้จ่ายสูง
  • ต้องการพื้นที่ในการทำงาน: เครนตอกเสาเข็มต้องการพื้นที่ในการติดตั้งและการตอกเสาเข็ม
  • เสียงดังและการสั่นสะเทือน: การตอกเสาเข็มอาจทำให้เกิดเสียงดังและการสั่นสะเทือน ซึ่งอาจรบกวนบริเวณใกล้เคียง

Overhead Crane

3. เครนเหนือศีรษะ (Overhead Crane)

เครนเหนือศีรษะ หรือ “Overhead Crane” เป็นเครื่องจักรที่ใช้ยกและเคลื่อนย้ายวัตถุหนักในแนวราบและแนวดิ่ง โดยติดตั้งบนโครงสร้างเหนือศีรษะ เช่น รางวิ่งที่ติดตั้งบนเพดานของโรงงานหรืออาคาร เครนประเภทนี้มักใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม การผลิต และคลังสินค้า เนื่องจากมีความสามารถในการยกน้ำหนักมากและเคลื่อนย้ายวัตถุได้ในพื้นที่กว้างขวาง

ข้อดีและข้อเสียของเครนเหนือศีรษะ

ข้อดี
  • ความสามารถในการยกน้ำหนักมาก: เครนเหนือศีรษะสามารถยกและเคลื่อนย้ายวัตถุที่มีน้ำหนักมากได้
  • ประสิทธิภาพในการเคลื่อนย้ายวัตถุ: สามารถเคลื่อนย้ายวัตถุได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
  • ประหยัดพื้นที่: การติดตั้งบนเพดานช่วยประหยัดพื้นที่ในโรงงานหรือคลังสินค้า
ข้อเสีย
  • ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและบำรุงรักษา: การติดตั้งเครนเหนือศีรษะมีค่าใช้จ่ายสูง และต้องมีการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ
  • ความซับซ้อนในการติดตั้ง: การติดตั้งเครนเหนือศีรษะต้องการความเชี่ยวชาญและการวางแผนที่ดี
  • ข้อจำกัดในการใช้งานในบางพื้นที่: เครนเหนือศีรษะอาจไม่เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีความสูงเพดานต่ำหรือมีโครงสร้างที่ไม่แข็งแรง

Crawler Crane

4. เครนตีนตะขาบ (Crawler Crane)

เครนตีนตะขาบ หรือ “Crawler Crane” เป็นเครื่องจักรที่ใช้สำหรับยกและเคลื่อนย้ายวัตถุหนัก โดยมีฐานล่างเป็นตีนตะขาบซึ่งช่วยให้เครนสามารถเคลื่อนที่ได้ในพื้นที่ขรุขระและไม่เรียบ เครนประเภทนี้มักใช้ในงานก่อสร้าง, งานขนส่ง, งานติดตั้งโครงสร้างหนัก, และงานอุตสาหกรรมเนื่องจากมีความมั่นคงและสามารถยกน้ำหนักได้มาก

ข้อดีและข้อเสียของเครนตีนตะขาบ

ข้อดี
  • สามารถเคลื่อนที่ในพื้นที่ขรุขระ: ตีนตะขาบช่วยให้เครนสามารถเคลื่อนที่ในพื้นที่ที่มีอุปสรรคหรือไม่เรียบได้อย่างมั่นคง
  • ความมั่นคงในการยกวัตถุหนัก: เครนตีนตะขาบมีฐานที่แข็งแรงและมั่นคง ทำให้สามารถยกและเคลื่อนย้ายวัตถุหนักได้อย่างปลอดภัย
  • ความยืดหยุ่นในการใช้งาน: สามารถใช้งานในหลากหลายสภาพแวดล้อมและงานก่อสร้างต่าง ๆ
ข้อเสีย
  • ขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก: เครนตีนตะขาบมีขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก ทำให้ยากต่อการเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่ต่าง ๆ โดยไม่ต้องใช้ยานพาหนะพิเศษ
  • ค่าใช้จ่ายสูง: การซื้อและบำรุงรักษาเครนตีนตะขาบมีค่าใช้จ่ายสูง รวมถึงค่าใช้จ่ายในการขนส่งและติดตั้ง
  • ความซับซ้อนในการใช้งาน: ต้องการผู้เชี่ยวชาญในการควบคุมและใช้งานเครนอย่างถูกต้องและปลอดภัย

เลือกซื้อเครน

ปัจจัยในการเลือกซื้อเครน

เมื่อทราบถึงประเภทของเครนแล้ว การเลือกเครนให้เหมาะสมกับงานจะต้องพิจารณาปัจจัยหลายประการ ดังนี้

1. น้ำหนักและขนาดของวัสดุที่จะยก

  • ควรเลือกเครนที่สามารถรองรับน้ำหนักของวัสดุได้อย่างปลอดภัย
  • ขนาดของวัสดุที่ยกต้องไม่เกินความสามารถของเครน

2. พื้นที่การทำงาน

  • หากพื้นที่การทำงานมีขนาดเล็ก ควรเลือกเครนที่มีความยืดหยุ่นและสามารถเคลื่อนที่ได้ง่าย
  • สำหรับพื้นที่ขรุขระ ควรเลือกเครนตีนตะขาบที่มีความสามารถในการเคลื่อนที่ได้ดี

3. ความสูงและระยะการยก

  • ควรเลือกเครนที่มีความสูงและระยะการยกเพียงพอกับความต้องการของงาน
  • สำหรับงานที่ต้องการยกของสูง ควรเลือกเครนที่มีแขนยาวและสามารถยกได้ในระยะไกล

4. สภาพแวดล้อมการทำงาน

  • พิจารณาสภาพแวดล้อม เช่น อากาศ ลม และสภาพพื้นดิน
  • หากทำงานในพื้นที่ที่มีลมแรง ควรเลือกเครนที่มีเสถียรภาพสูง

การตรวจสอบเครน

รู้ขั้นตอนการตรวจสอบและบำรุงรักษาเครน

นอกจากการเลือกสเปคการใช้งานและ การบำรุงรักษาเครนอย่างถูกต้องในระหว่างการใข้ เป็นสิ่งที่นายจ้างต้องเรียนรู้ก่อนซื้อเครน เนื่องจากการตรวจสอบเครนและบำรุงรักษาเป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติในการใช้งาน ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานและลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ

การตรวจสอบเครนซึ่งมีทั้งจากช่างของอค์กรที่ต้องตรวจเป็นประจำทุกเดือน และการใช้บริการตรวจเครนประจำปี โดนส่วนใหญ่องค์กรมักจะใช้ทีมตรวจภายนอกเข้ามาตรวจเครน เพราะการตรวจประจำปีจะมีสิ่งที่ต้องตรวจสอบละเอียดกว่าการตรวจสอบทั่วไป จำเป็นต้องมีเครื่องมือให้พร้อม มีผู้ตรวจที่มีคุณสมบัติตามกฎหมาย ที่สามารถออกรายงานตรวจได้

ขั้นตอนการตรวจสอบและบำรุงรักษาเครน

1. การตรวจสอบก่อนใช้งาน

    • ตรวจสอบสภาพทั่วไปของเครน เช่น สายสลิง เบรก และระบบควบคุม
    • ตรวจสอบน้ำมันหล่อลื่นและระดับน้ำมันในเครื่องยนต์

2. การตรวจสอบระหว่างการใช้งาน

    • สังเกตเสียงและการทำงานของเครน หากพบความผิดปกติควรหยุดใช้งานและตรวจสอบทันที
    • ตรวจสอบความเสถียรของเครนในระหว่างการยกของ

3.. การตรวจสอบประจำปี

    • การใช้งานเครนจะมีการส่งรายงานตรวจสอบสภาพเครนพร้อมใช้งานประจำปี คือตรวจสอบปีละ 1 ครั้ง
    • ซึ่งต้องได้รับการตรวจจากวิศวกรที่ได้ขึ้นทะเบียนตามมาตราที่ 9
    • เมื่อทำการตรวจสอบแล้ววิศวกรต้องออกรายงานการตรวจสอบเครน ซึ่งจะแยกตามประเภทเครน คือ ปจ.1 ปจ.2

4. การบำรุงรักษาตามรอบเวลา

    • เปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่นตามระยะเวลาที่กำหนด
    • ตรวจสอบและเปลี่ยนชิ้นส่วนที่มีการสึกหรอ เช่น เบรก สายสลิง

บทความที่เกี่ยวข้อง : ทำไมต้องตรวจเครน เหตุผลที่ต้องตรวจเครน เพราะอะไร

ใช้งานเครนอย่างปลอดภัย

ความปลอดภัยในการใช้เครน

เมื่อคุณต้องการจะเลือกซื้อเครน คุณควรรู้ถึงความปลอดภัยในการใช้เครนเป็นสิ่งที่สำคัญ ผู้ใช้งานต้องปฏิบัติตามหลักความปลอดภัยอย่างไรบ้าง ต้องเตรียมตัวพนักงานก่อนการใช้งานเครนอย่างไร ซึ่งเราได้รับความปลอดภัยในการใช้เครนที่ ผู้ใช้งานควรทราบมีดังนี้

1. ฝึกอบรมผู้ใช้งานเครน

    • ผู้ใช้งานเครนต้องได้รับการฝึกอบรมเครน จากศูนย์ฝึกที่ได้รับอนุญาตอบรม โดยจะจัดอยู่ในหลักสูตรอบรมเครน 4 ผู้ (คือผู้ให้สัญญาณ, ผู้ยึดเกาะวัตถุ, ผู้บังคับ และผู้ควบคุมเครน)
    • ต้องมีใบรับรองก่อนปฏิบัติงานจริง (ได้จากอบรม)
    • การฝึกอบรมจะเน้นการใช้เครนในสถานการณ์จำลองเพื่อเพิ่มความเชี่ยวชาญ

2. ปฏิบัติตามข้อกำหนดและมาตรฐาน

    • ปฏิบัติตามข้อกำหนดและมาตรฐานความปลอดภัยที่กำหนดโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
    • ตรวจสอบและบำรุงรักษาเครนตามมาตรฐานที่กำหนด

3. ใช้สัญญาณและการสื่อสาร

    • ใช้สัญญาณมือและการสื่อสารอย่างชัดเจน ระหว่างผู้ควบคุมเครนและผู้ให้สัญญาณ (ส่วนนี้ให้จัดให้เรียนรู้ในหลักสูตรอบรมเครน 4 ผู้)
    • มีการติดตั้งระบบสื่อสารแบบวิทยุสำหรับการสื่อสารในระยะไกล

4. เตรียมความพร้อมของอุปกรณ์ PPE

    • ให้พนักงานทุกคนสวมใส่อุปกรณ์ PPE เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการทำงาน
    • เช่น เสื้อกั๊กเเรืองแสงสำหรับมือแยกคนได้ชัดเจน, หมวกนิรภัยป้องกันของตกใส่หัว เป็นต้น
    • ตรวจสอบความแข็งแรงและความสมบูรณ์ของอุปกรณ์ PPE ก่อนใช้งานอย่างสม่ำเสมอ

สรุป

การเลือกใช้เครนให้เหมาะสมกับงานเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย การทราบถึงประเภทของเครน ปัจจัยในการเลือกใช้เครน และการบำรุงรักษาเครนเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราสามารถเลือกใช้เครนได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ การฝึกอบรมผู้ใช้งานและการปฏิบัติตามข้อกำหนดความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและเพิ่มความปลอดภัยในการทำงานได้อย่างมาก

หากคุณสนใจบริการตรวจสอบเครน ทั้ง ปจ.1 ปจ.2 รวมถึง การบำรุงรักษาเครน สามารถติดต่อใช้บริการได้ที่  เครนดี

โทรศัพท์ : 065 – 441 – 9324

Copyright @2024   เครนดี.com Developed website and SEO by iPLANDIT